ในช่วงปี 1921-1940 เอเชียเต็มไปด้วยความวุ่นวายและการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ ประเทศจีนเผชิญวิกฤตหลังการปฏิวัติซินไห่ ที่โค่นล้มราชวงศ์ชิงและตั้งสาธารณรัฐขึ้น แต่ประเทศยังแตกแยกจากการแย่งชิงอำนาจของกลุ่มขุนศึกในแต่ละภูมิภาค ซุน ยัตเซน พยายามรวบรวมจีนให้กลับมาเป็นหนึ่งเดียว ด้วยการตั้งรัฐบาลคู่ขนานที่กว่างโจวและก่อตั้งพรรคก๊กมินตั๋ง พร้อมทั้งขอความช่วยเหลือจากโซเวียตและร่วมมือกับพรรคคอมมิวนิสต์จีน แต่ความขัดแย้งภายในพรรคก๊กมินตั๋งรุนแรง ฝ่ายขวาซึ่งนำโดยเจียง ไคเชค ไม่ต้องการให้คอมมิวนิสต์มีบทบาท จนนำไปสู่การกำจัดฝ่ายซ้ายและพรรคคอมมิวนิสต์จีนออกจากรัฐบาล จุดเริ่มต้นของสงครามกลางเมืองที่ยืดเยื้อยาวนาน
ขณะเดียวกัน ญี่ปุ่นเริ่มขยายอำนาจด้วยการบุกแมนจูเรียในปี 1931 และตั้งรัฐหุ่นเชิดแมนจูกัว ต่อมาในปี 1937 ญี่ปุ่นบุกนานกิงและก่อเหตุสังหารหมู่ชาวจีนกว่า 300,000 คน จุดชนวนสงครามจีน-ญี่ปุ่นครั้งที่ 2
ทางด้านเอเชียตะวันตก ชาวปาเลสไตน์เริ่มต่อต้านชาวยิวที่อพยพเข้ามาตั้งถิ่นฐาน สะท้อนความขัดแย้งที่รุนแรงขึ้น ส่วนฟิลิปปินส์เริ่มมีรัฐบาลของตนเอง นำไปสู่การเรียกร้องเอกราชจากสหรัฐฯ เหตุการณ์เหล่านี้สะท้อนให้เห็นว่า เอเชียคือศูนย์กลางความขัดแย้งและการเปลี่ยนแปลงของโลกอย่างแท้จริงในศตวรรษที่ 20