โลกนี้หรือทั่วทั้งจักรวาลจึงมีสิ่งเร้นลับอีกมากมายที่เราไม่อาจทราบและไม่สามารถเข้าใจได้ การค้นพบสิ่งต่างๆทั้งในอดีตและปัจจุบัน ไม่ได้ให้คำตอบแต่อย่างใดว่าสิ่งที่เราพบนั้นจะเป็นไปตามที่เราเห็นและเข้าใจทุกสิ่งทุกอย่างล้วนมีสิ่งที่เกินกว่าความเข้าใจซ่อนเร้นอยู่ด้วยกันทั้งสิ้น แม้มีความพยายามจะหาคำตอบด้วยวิธีทางวิทยาศาสตร์จนสามารถนำเราเข้าใกล้กับคำตอบแล้วก็ตาม แต่บ่อยครั้งเช่นกันที่ปรากฏว่าสิ่งซึ่งเราคิดว่าใกล้ความจริงเข้าไปแล้วนั้นกลับต้องไปตั้งต้นใหม่อยู่ร่ำไป เมื่อพบว่าสิ่งที่ทำไปแล้วกลับผิดทิศผิดทาง หรือสิ่งที่คิดว่าเป็นความจริงนั้นกลับกลายเป็นสิ่งที่คลุมเครือไป เมื่อเราได้หลักฐานชิ้นใหม่หรือทฤษฎีใหม่ที่สามารถมาหักล้างบทสรุปเดิมได้อย่างสิ้นเชิง
ก็คล้ายๆกับปริศนาที่เคยเป็นปริศนาของคนรุ่นหนึ่ง มันจะไม่เป็นปริศนาสำาหรับคนรุ่นถัดไป เมื่อคนรุ่นนั้นสามารถค้นหาคำตอบจนเป็นที่ีประจักษ์ได้ แต่พอไปถึงคนอีกรุ่นหนึ่ง สิ่งที่คิดว่าประจักษ์อาจไม่ใช่อีกต่อไปแล้วก็ได้ เป็นเช่นนี้ไม่สิ้นสุด ตราบใดที่จักรวาลยังคงมีสิ่งที่เป็นปริศนาท้าทายการค้นหาคำตอบอยู่อย่างไม่มีวันจบสิ้น การค้นคว้าหา คำตอบจึงไม่มีวันสิ้นสุดลงไปได้ แต่แม้เราจะพบว่าคำาตอบที่เคยใช่อาจไม่ใช่เสียแล้ว ก็ใช่ว่าสิ่งที่เคยค้นพบนั้นจะไร้ประโยชน์ไปเสียทีเดียว เพราะทุกๆครั้งที่เราพยายามค้นคว้าหาคำาตอบใหม่ๆเราก็มักจะได้ความรู้ใหม่ๆเพิ่มขึ้นด้วยเสมอ ความรู้จึงเกิดขึ้นมาอย่างไม่มีที่สิ้นสุดด้วยเช่นกัน ด้วยเหตุนี้เองที่ทำให้มนุษย์เกิดวิวัฒนาการไปสู่ความก้าวหน้าขึ้นเรื่อยๆ